วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ชีวิตลุงโกร่ง กางเกงแดงเปรียบชีวิตที่เหมือนสายน้ำ

ชีวิตลุงโกร่ง กางเกงแดงเปรียบชีวิตที่เหมือนสายน้ำ หลังสร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้แก่วงการบันเทิงไทยมานานกว่า 50 ปีล่าสุดดาราอาวุโสอารมณ์ดี “ณรงค์ รตาภรณ์” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ “ลุงโกร่ง กางเกงแดง” ก็ได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 83 ปี ภายในบ้านพักย่านนนทบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

จากการชันสูตรเบื้องต้นคาดว่าดาราอาวุโสคงจะเสียชีวิตมาแล้วราว 3-4 วันก่อนที่ศพจะถูกพบ ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะมาจากอาการของสารพัดโรคที่เจ้าตัวเป็นอยู่ ทั้งถุงลมโป่งพอง (ปอดสามารถใช้งานได้เพียง 25%) โรคหืดหอบ โรคเบาหวาน


“โกร่ง กางเกงแดง” เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2471 เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่โรงพักสำราญราษฎร์ เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการรับหน้าที่เป็นโฆษกประจำวงดนตรีลูกทุ่ง ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นเจ้าของวงดนตรี มีนักร้องดังในยุคนั้นมาร่วมร้องให้ ทั้ง มีศักดิ์ นาครัตน์, ชรินทร์ นันทนาคร ทำให้วงดนตรีได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

โดยเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาก็คือการแต่งตัวด้วยเสื้อราชปะแตน-กางเกงสีแดง ซึ่งนอกจากจะมีวงดนตรีเป็นของตนเองแล้วเจ้าตัวยังมีส่วนในการตั้งวงดนตรีให้กับ “ไวพจน์ เพชรสุพรรณ” อีกด้วย

จากวงการเพลง เจ้าตัวได้เข้าสู่แวดวงละครทีวี มีผลงานอย่าง หลวงพ่อทองวัดโบสถ์, ตาอินเทวดา, ประชาชนชาวแฟลต, โทน, สิบโทบุญถึง, พลิกฟ้าตามล่าหาเธอ ฯลฯ ก่อนจะเข้าสู่วงการภาพยนตร์มีผลงานการแสดงประมาณ 200 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นบทตัวตลก เช่น ผู้ใหญ่ลี, บุญเพ็งหีบเหล็ก, แม่นาคพระโขนง, ชายผ้าเหลือง

สำหรับที่มาของสมญา “กางเกงแดง” นั้น ว่ากันว่านอกจากจะเป็นเพราะการสวมใส่กางเกงสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งเจ้าตัวได้เข้าฉากปีนต้นไม้ในการแสดงภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ซึ่งขณะที่ปีนอยู่นั้น จู่ๆ กางเกงก็หลุดออกมา เผยให้เห็นกางเกงในสีแดงสด นั่นเองที่ทำให้ทุกคนพากันเรียกว่า “ลุงโกร่ง กางเกงแดง”

ด้านชีวิตครอบครัว ลุงโกร่งมีภรรยาหลายคน มีบุตร-ธิดารวม 12 คน โดยภรรยาคนล่าสุดที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็เพิ่งจะเสียชีวิตลงไป

ในระยะหลังๆ ที่งานหดหาย ลุงโกร่งได้หันมาหารายได้ด้วยการนำสิ่งของต่างๆ ไปขายตามกองถ่ายหนัง-ละคร สตูดิโอบันทึกรายการ รวมถึงตามงานการกุศลต่างๆ จนกลายเป็นภาพที่คุ้นตา ซึ่งนอกจากจะเป็นการหารายได้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อประทังชีวิตแล้ว การออกมาขายของดังกล่าวก็ยังถือเป็นการไปพบปะเพื่อนฝูงในวงการตลอดจนดารารุ่นลูกรุ่นหลานเพื่อคลายความเหงาจากชีวิตที่โดดเดี่ยวของตนด้วย

แม้จะมีชีวิตที่ดูตกอับ อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในที่พักที่ทรุดโทรม ป่วยด้วยสารพัดโรค มีรายได้ที่ไม่แน่นอน แต่กระนั้นลุงโกร่งก็ไม่เคยทำให้ตัวเองดูน่าสมเพช แต่จะอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา และเป็นคนที่ชอบทำบุญมากๆ โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้วเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์เปรียบเปรยชีวิตของตนเองกับสายน้ำไว้อย่างน่าสนใจผ่าน นสพ.คมชัดลึก ว่า...

“ชีวิตเราไม่แตกต่างจากสายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เคยเห็นสวะ หรือขยะในแม่น้ำไหม มันลอยมาก็ต้องลอยไป ตรงนี้ไม่แตกต่างอะไรกับชีวิตคนเรา ที่เกิดมาพอหมดอายุขัยก็ต้องจากโลกนี้ไป หรือเราเห็นน้ำขึ้นอย่างไร พอสักพักต้องมีน้ำลง ชีวิตเราก็เหมือนกัน”

“ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่วันนี้ชีวิตเหมือนน้ำลงนั่นเอง แต่ผมคิดว่าชีวิตเหมือนพระอาทิตย์กับพระจันทร์ เพราะมีดวงดับ ดวงเสี้ยว แต่จริงๆ ถ้าเป็นไปได้อยากคงทนแบบพระอาทิตย์เหมือนกัน เช้าขึ้นเย็นตก เช้าเกิดใหม่ วันนี้คิดว่าผมดวงตก จริงๆ เราอายุมากแล้วด้วย”
...
หมายเหตุ : ร่างของ “ลุงโกร่ง กางเกงแดง” ถูกตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดเครือวัลย์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในช่วงเวลา 16.00 น.ของวันนี้
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์




ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก