วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

“พอลล่า” บินกลับไทยโกยเงิน แย้มวุ่นเลี้ยงลูกจนไม่ได้ดูแลตัวเอง แพลนปั๊มอีก 2 คน

“พอลล่า” บินกลับไทยโกยเงิน แย้มวุ่นเลี้ยงลูกจนไม่ได้ดูแลตัวเอง แพลนปั๊มอีก 2 คน “พอลล่า” บินกลับไทยโกยเงิน รับสุดคิดถึงเมืองไทย อยากกลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง เผยตั้งแต่มีลูกชีวิตเปลี่ยนไป ทุ่มเทเวลาเลี้ยงลูกจนไม่ได้ดูแลตัวเอง แพลนมีอีก 2 คน ส่วนคนต่อไปจะเปิดอู่เมื่อไหร่ปีหน้าค่อยว่ากันอีกที

หลังจากแต่งงานสาวฮอต “พอลล่า เทเลอร์” ก็ลาวงการไปใช้ชีวิตกับสามี “เอ็ดเวิร์ด บัทเทอรี่” ที่ประเทศอังกฤษได้พักใหญ่ กระทั่งคลอดลูกสาว “น้องไลลา เจน บัทเทอรี่” ได้ 4 เดือน
ล่าสุดสาวพอลล่าก็บินกลับเมืองไทยด้วยความคิดถึง พร้อมออกงานรับทรัพย์ทันทีในงาน เทศกาลอาหารเจ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ซึ่งงานนี้เจ้าตัวได้โชว์รูปสุดน่ารักของน้องไลลาลูกสาว ให้สื่อมวลชนได้ยลโฉมกัน ก่อนจะให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า…
"เพิ่งกลับมาเมื่อเช้าวันที่ 20 กันยาฯค่ะ ก็คิดถึงมากค่ะ ไม่ได้มานาน ก็จะกลับมาอาทิตย์นึงแล้วก็ไปสิงคโปร์ อยู่ต่างประเทศก็อยากมาเมืองไทย ตอนนี้ก็ได้มาแล้ว ไปตั้งแต่ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก็เกือบปีแล้ว คิดถึงค่ะ เรากลับมาก็อยากให้เพื่อนๆ มีลูกหมด (หัวเราะ) จะได้มาเล่นกับไลลา”
“แต่ว่าการเป็นแม่เป็นอะไรที่แปลกมาก ก่อนหน้านี้เราไม่คิดว่าจะเป็นแม่ขนาดนั้น แต่ก็ชอบ สนุกดีค่ะ เป็นอีกบทบาทนึงที่สำคัญสำหรับผู้หญิง ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรก็เลี้ยงลูกค่ะ ลูกน่ารัก 6 อาทิตย์แรกเลี้ยงเองค่ะ แล้วตอนหลังมีคนมาช่วย ก็สนุกดี เราก็ชอบ สนุกที่จะเลี้ยงเองนะ แต่ว่าพอเราเลี้ยงเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ก็เลยต้องมีพี่เลี้ยงมาช่วยทำอาหารให้กิน โชคดีไลลาเลี้ยงง่าย เป็นเด็กดี”

“เอ็ดเวิร์ดก็มีช่วยเลี้ยงค่ะ เขาเห่อมาก(หัวเราะ) เดือนแรกเปลี่ยนผ้าอ้อมยิ่งกว่าเราอีก แต่ตอนหลังไม่ค่อยแล้วเพราะทำงานค่ะ ตอนนี้เอ็ดอยู่สิงคโปร์ค่ะ เขาทำงานที่นู่น ส่วนน้องอยู่กับเราที่เมืองไทย ก็คงไปๆ มาๆระหว่างสิงคโปร์กับเมืองไทยเพราะเอ็ดมีงานอยู่ที่นั่น แต่เรามีงานอยู่ที่นี่ก็ใกล้ๆ กันค่ะ ตอนนี้ก็อยู่เมืองไทยอาทิตย์นึง แล้วไปสิงคโปร์ แล้วก็กลับมาเมืองไทยอีก ไม่หายไปหรอก เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว อยากกลับมาทำงานค่ะถ้าเขายังจ้างอยู่ ตอนนี้ก็พอมีงานที่วางไว้บ้าง เป็นพวกถ่ายแบบ ส่วนละครนี่ยังค่ะ ก็หวังว่ามีนะ ติดต่อได้นะ (ยิ้ม)”

“อย่างซิทคอมเนื้อคู่ประตูถัดไปมีแพลนถ่ายปีหน้าค่ะ ตื่นเต้นมาก เขียนบทเร็วๆ น้า (หัวเราะ) ก็คุยกันตั้งนานแล้วค่ะ จริงๆ คุยกันก่อนไปอังกฤษ เขาก็บอกว่ากลับมาเร็วๆ นะ เราก็โอเค เขียนบทเร็วๆ แล้วกัน แต่ถามว่ากลับมาครั้งนี้เราหวังว่าจะฮอตเหมือนเดิมมั้ย ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรค่ะ แค่ได้งานเราก็แฮปปี้แล้วค่ะ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปจะเป็นยังไง"

เผยสามี “เอ็ดเวิร์ด” ไม่ห้ามรับงานให้ลูก แต่ออกอาการเป็นห่วงกระแสงแฟลชกระทบตาลูกสาว

“ส่วนไลลาเองตอนนี้เพิ่งจะ 4 เดือน ก็ยังไม่ได้คิดอะไรเผื่ออนาคตเขามาก ยังไม่ได้คิดอะไรไกลถึงขนาดนั้น คงเป็นทีละสเต็ป ถ้าจะมีงานให้เขาก็คงต้องดูก่อน อาจจะมีรับถ่ายแบบนะ แต่คงต้องดูก่อน มีติดต่อพร้อม 3 คนแม่ลูกก็มี คือเอ็ดเขาก็เป็นห่วงว่าเจอคนเยอะ เจอแฟลช แต่เราก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เราเป็นแม่นะ เรารู้ เขาไม่มีห้าม แต่เป็นห่วง เราบอกว่าจะบ้าเหรอ ไม่เจอหรอก เดี๋ยวดูก่อน”

“กับเอ็ดเราก็ยังหวานกันเหมือนเดิม เขาก็ยังบอกรักเราทุกคืน ถึงตอนนี้จะอยู่กันคนละประเทศ แต่เราก็คุยกันทุกวันสมัยนี้เล่น Skype เล่นอินเตอร์เน็ตนู่นนี่ ได้เจอหน้ากันก็ไม่รู้สึกว่าห่างกันมาก ตอนนี้การใช้ชีวิตเราเปลี่ยนไป ตั้งแต่มีไลลาก็คิดถึงเขาก่อนตัวเอง จะทำอะไรต้องวางแผนล่วงหน้าเยอะมาก”

“จริงๆ เราเป็นคนที่ปุบปับมาก อยากทำอะไรก็ทำเลย ตอนนี้ต้องคิดก่อนว่าจะไปต้องเตรียมอะไรบ้าง ตอนนี้ไปไหนทีนึงกระเป๋าใหญ่มาก ไม่มีทางกระเป๋าเล็กนะ แล้วเราเองก็ใจเย็นขึ้นด้วย ส่วนเรื่องหุ่นไม่ได้ดูแลอะไร ก็อาศัยวิ่งตาม เล่นกับลูก ไม่มีอะไรมาก ก็ไม่ได้ลดหุ่นอะไรค่ะ ตอนท้องน้ำหนักขึ้นประมาณ 10-12 กิโล ไม่เยอะมาก คลอดแล้วไปอยู่ที่น้องหมดค่ะ”

“ส่วนเพื่อนๆ ก็ชอบมาเล่นกับไลลา มีซื้อผ้าอ้อมแอร์เมสรับขวัญหลาน สปอยล์(Spoil)มาก (หัวเราะ) ไม่ค่อยกล้าใช้เลย กลัวถ้าเช็ดปากทีนึงต้องบอกว่าไลลาระวังนะ แอร์เมสนะ (หัวเราะ) สปอยล์มาก ทุกคนเห่อมากค่ะ"

ลั่นอยากมีลูกสัก 3 คน ส่วนคน ต่อไปจะเปิดอู่เมื่อไหร่นั้นปีหน้าค่อยว่ากันอีกที บอกตอนนี้ขอพักเพราะยังสนุกกับการเลี่ยงลูกสาวคนแรกอยู่

"มีคนที่ 2 แน่นอนค่ะ แต่ว่ายังรอก่อน ขอทำงานก่อนค่ะ ก็ยังไม่ได้วางแผนว่าจะมีเมื่อไหร่ เพราะยังสนุกกับการเลี้ยงไลลา คือไม่อยากวางว่าทุก 2 ปีต้องมี ไม่อยากเป็นแบบนั้น เดี๋ยวดูก่อนอีกที สำหรับคนต่อไปถ้าเลือกได้ก็อยากได้ผู้ชาย จะได้ครบผู้หญิงผู้ชายค่ะ ใจจริงเราก็อยากจะมีสัก 3 คน แต่รอก่อน ลองถามอีกสักปีมั้ย(หัวเราะ)”
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก