วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เสก โลโซ เลิกหลบ เข้าพบ ป.ป.ส.เตรียมบำบัดพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.)

เสก โลโซ เลิกหลบ เข้าพบ ป.ป.ส.เตรียมบำบัดพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.)
เปิดหนังชีวิตเรื่องยาว ของ “เสก โลโซ” หลังยอมรับเสพยา เจ้าตัวสำนึกผิดตั้งโต๊ะขอขมาแม่ และเตรียมเข้าพบ ป.ป.ส.เพื่อบำบัดพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.) ด้าน “กานต์” อดีตภรรยา โต้ยังไม่คืนดีอย่างที่นักร้องหนุ่มอ้างไว้ในเฟซบุ๊ก เล็งเข้าพบผู้ใหญ่แกรมมี่เพื่อขอขมาแทนเสก วอนทุกฝ่ายให้โอกาสอดีตสามี ส่วน “อ้อม” ผจก.ส่วนตัวที่เสกอ้างเป็นเมียใหม่งานเข้า หลังฝรั่งโผล่แฉโดนอ้อมหลอกให้แต่งงานด้วยแล้วทิ้ง

หลังจาก “เสก โลโซ” ออกมาแถลงยอมรับว่าเสพยามา 8 ปี พร้อมกับลุกขึ้นมาแฉต้นสังกัดแกรมมี่ว่าสั่งคนตามประกบและยังดักฟังโทรศัพท์ตน
จนรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัยต้องจ้างการ์ดมาคุ้มกัน ทั้งยังเปิดประเด็นว่าที่ผ่านมาตนทำรายได้ให้กับค่ายเพลงค่ายนี้กว่าพันล้านบาท จึงอยากจะให้ทางแกรมมี่เข้ามาชี้แจงและเจรจาว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร เนื่องจากตนก็เป็นหนี้บุญคุณทางแกรมมี่ที่ทำให้มีชื่อเสียงขึ้นมา เพราะฉะนั้นอย่าทำให้ตนต้องแฉว่าที่ผ่านมาแกรมมี่ทำอะไรกับตน หรือว่ามีวิธีการทำมาหากินอย่างไรบ้าง? เป็นการเปิดศึกกับต้นสังกัดชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

กระทั่งวันถัดมา แกรมมี่โต้กลับด้วยการตั้งโต๊ะแถลงข่าวยกเลิกสัญญากับ “เสก โลโซ” พร้อมสั่งเก็บทุกอัลบั้มของนักร้องดังทันที ก่อนจะยืนยันไม่เคยสั่งคนตามและดักฟังโทรศัพท์อย่างที่นักร้องดังกล่าวหา ส่วนเรื่องผลประโยชน์ก็ไม่เคยเอาเปรียบ

โดยท่าทีดังกล่าวของแกรมมี่ได้ทำให้เสกไม่พอใจ ถึงกับเอาไปด่าโชว์กลางงานคอนเสิร์ตที่จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมดับเครื่องชน บอกถ้าต้นสังกัดฟ้องตนก็จะฟ้องกลับทันที ทั้งยังขู่ส่งท้ายจะแฉความลับที่แกรมมี่เคยทำผิดไว้ สุมให้สถานการณ์ลุกลามเข้าไปอีก ทำให้หลายคนจับตามองว่าเจ้าตัวจะทำยังไงต่อไป ซึ่งตั้งแต่นั้นมาเจ้าตัวก็เอาแต่เก็บตัวเงียบ มีเพียงการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว และคนใกล้ชิดที่ออกมาเผยว่าเสกมีอาการเครียดจนไม่สามารถเล่นดนตรี ทำให้ต้องยกเลิกงานคอนเสิร์ตทั้งหมด

แต่ดูเรื่องราวของนักร้องหนุ่มจะดูวุ่นวายและบานปลายไปกันใหญ่ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา อยู่ๆ “นายเบรนดัน จอห์น ฮูกกี้” ชาวออสเตรเลียที่อ้างตัวเป็นสามี “อ้อม พรพิมล เทพพิชัย” ผู้จัดการส่วนตัวเสก และเป็นคนเดียวกันกับที่เสกหอมแก้มโชว์และประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนในวันแถลงข่าวว่าเป็นเมียใหม่ของตน โดยนายเบรนดันได้ออกมาแฉว่าเคยแต่งงานกับสาวอ้อมมาแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมานี้เอง

อีกทั้งยังงัดหลักฐานเด็ดมาโชว์สารพัด ทั้งใบทะเบียนสมรส รูปงานแต่ง และหลักฐานการโอนเงินหลายแสนบาท รวมทั้งข้อความที่ฝ่ายหญิงเสนอเงิน 1 ล้านบาท เพื่อห้ามตนมาวุ่นวายชีวิตอีก พร้อมแจกแจงถึงสาเหตุที่เลิกกัน เนื่องจากฝ่ายหญิงนอกใจไปคบกับเสกหลังแต่งงานกันได้ไม่กี่เดือน และที่ออกมาแฉนั้นก็เพราะต้องการให้ทุกคนรู้ว่าตนถูกอ้อมหลอกให้แต่งงาน และเตรียมปรึกษาทนายความว่าจะดำเนินคดีตามกฏหมายกับสาวอ้อมหรือไม่ ถ้ามีหลักฐานว่าตนถูกหลอกให้แต่งงานอีก และถ้าหากเป็นจริงตนก็จะเรียกร้องค่าเสียหายคืนทั้งหมด

กรณีดังกล่าวทำเอาสาวอ้อมนั่งไม่ติด ออกมาโต้ข่าวทันควันว่าไม่ได้หลอกนายเบรนดัน พร้อมแจงว่าก่อนหน้านี้ตนได้ปรึกษาเพื่อนว่าอยากจะไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อนก็เลยแนะนำให้รู้จักกับเบรนดันทางเอ็มเอสเอ็น เมื่อคุยกันได้หนึ่งเดือน นายเบรนดันก็บอกว่าจะมาทำงานที่เกาะสมุย จึงได้นัดเจอกันเพราะตนทำงานที่นั่นพอดี และได้พูดคุยกันตนก็บอกว่าอยากไปทำงานที่ออสเตรเลีย ส่วนนายเบรนดดันก็อยากเปิดธุรกิจที่เมืองไทย จนกระทั้งได้พูดคุยถึงเรื่องแต่งงานจากนั้นก็เลยตกลงแต่งงานกัน ทางแม่ของตนได้เรียกขอสินสอด 2 แสนบาท ทอง 6 บาท ซึ่งนายเบรนดดันก็ตอบตกลงแต่โดยดี

โดยหลังจากได้แต่งงานกันแล้ว 2 อาทิตย์ ตนและนายเบรนดันไม่ได้อยู่กินกันอย่างสามีภรรยา เพราะนายเบรนดันได้บินกลับไปอยู่ออสเตรเลีย จากนั้นไม่นานฝ่ายชายก็มาขอหย่า และไม่ได้เรียกสินสอดอะไรคืน นอกจากแหวนแค่วงเดียว โดยสรุปได้ว่าเป็นเพียงการแต่งงานเพื่อธุรกิจเท่านั้นและเตรียมแต่งตั้งทนายสู้ อีกทั้งยังปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างเสก ว่าตนไม่ได้เป็นเมียใหม่ เพียงร่วมงานกันเท่านั้น

ซัดกันคนละเรื่องจนไม่รู้ใครพูดจริงใครโกหก แต่ที่แน่ๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายเบรนดันได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พงส.(สบ 3) สน.ลุมพินี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากหวั่นกลัวว่าตนเองจะไม่ปลอดภัยหลังจากที่ได้ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างตนและสาวอ้อมจึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ชะตากรรมของนักร้องชื่อดังยังไม่จบ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ออกจดหมายเชิญเสกให้มาชี้แจงกรณีเสพยา โดยยื่นคำขาดนักร้องดังต้องเข้ามาชี้แจงภายใน 7 วัน หรือประมาณวันที่ 29 ธันวาคมนี้ ซึ่งหากไม่มาตามกำหนดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท

กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา เสกได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมจัดเครื่องเซ่นไหว้พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5, พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, พระพิฆเนศ, พระศิวะ และ พ่อแก่ เพื่อกราบขอประทานอภัยและขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสิ่งที่ผมทำผิด ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด” พร้อมโพสต์รูปภาพประกอบข้อความเป็นภาพโต๊ะปูผ้าสีขาวจัดวางเครื่องสักการะ เช่น พวงมาลัยดอกดาวเรือง มะพร้าว กล้วย หมากพลู เป็นต้น โดยมีพระบรมฉายาลักษณ์ 2 พระองค์ รวมทั้งรูปปั้นของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าตัวให้ความเคารพนับถือ

และในวันเดียวกัน เสกได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “เมียผมกลับมาและเข้าใจผมเป็นอย่างดี ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนและเข้าใจ ต้องกราบขออภัยผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ ผมมิได้มีเจตนาที่จะลบหลู่ดูหมิ่นใครแต่อย่างได ผมไม่เคยรังแกใครก่อนไม่เคยเอาเปรียบใคร รักความยุติธรรม ผิดเป็นผิดถูกเป็นถูก แม้แต่พี่น้องผมถ้าผิดก็จะดุด่าว่ากล่าวอย่างค่อนข้างแรง แต่ทุกคนรู้ว่าผมจริงใจ”

ล่าสุด ทางฝั่งของกานต์ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กโต้ว่าไม่จริง เป็นเพียงการเจอกันเพื่อพูดคุยตกลงปัญหากัน และให้กำลังใจตามประสาคนเคยเป็นสามีภรรยาเท่านั้น ก่อนจะเปิดเผยว่าเสกกำลังดีขึ้น และตนเตรียมจะเข้าพบผู้ใหญ่ของแกรมมี่ เพื่อขอขมาแทนอดีตสามี ซึ่งคาดว่าน่าจะหลังปีใหม่นี้ พร้อมวอนให้แฟนๆ ให้โอกาสนักร้องหนุ่มอีกครั้ง ส่วนเรื่องการบำบัดตอนนี้เจ้าตัวยังไม่ยอมซึ่งก็ต้องหารือกับทางญาติๆ อีกครั้ง และได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คของตนเองว่า “ที่ผ่านมานั้น มันไม่ใช่ตัวเสก อีกไม่นานเสกก็จะกลับมาเป็นคนเดิม”
ที่มาASTVผู้จัดการออนไลน์



ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก