วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

“เวิร์คพ้อย” หนีน้ำท่วมเช่าสตูฯอัดรายการ บ้าน “ปัญญา” จ่อคิวทำใจตั้งรับ

“เวิร์คพ้อย” หนีน้ำท่วมเช่าสตูฯอัดรายการ บ้าน “ปัญญา” จ่อคิวทำใจตั้งรับ “ปัญญา” ยิ้มสู้น้ำท่วม “เวิร์คพ้อยท์” จนต้องไปเช่าสตูดิโออัดรายการแทน บอกเฝ้าระวังอยู่ตลอดเพราะรู้ว่าไปสร้างทำเลที่นา โล่งเครื่องมือไม่เสียหายเพราะได้วางโครงสร้างไว้อยู่ชั้น 2 อยู่แล้ว ส่วนบ้านตัวเองก็เตรียมรับมือกับน้ำท่วม วางแผนไปช่วยผู้ประสบภัยอีกแต่คราวนี้จะไปให้กำลังใจ เพราะคิดว่าช่วยยังไงก็คงไม่ทั่วถึง ขอให้ทุกคนยิ้มให้กันให้กำลังใจกัน

โดนน้ำท่วมเหมือนกันสำหรับบริษัทเวิร์คพ้อยท์ที่ตั้งอยู่ปทุมธานี จนต้องหนีน้ำท่วมมาเช่าสตูดิโอถ่ายทำรายการที่สตูดิโอมนตรีย่านลาดพร้าว โดย “ปัญญา นิรันดร์กุล” ผู้บริหารเวิร์คพ้อยท์ได้เปิดเผยว่า...

"สถานการณ์ตอนนี้เวิร์คพ้อยท์เองเราได้เตรียมการกั้นเอาไว้พอสมควร ณ ตอนนี้มันยังปริ่มๆ เข้าไปยังไม่ถึงขนาดท่วมแต่ว่ารอบนอกท่วมหมดแล้ว ก็ไม่รู้จะรักษาได้นานเท่าไหร่ ตอนนี้โดนตัดน้ำประปาไปแล้ว แต่ว่าเราก็จะมีคนรักษาการณ์เอาไว้เพื่อจะออกอากาศ เพื่อทำการตัดต่ออะไรต่างๆ แต่ว่าการถ่ายทำนี้ต้องหยุดหมดแล้ว พนักงานสั่งยุติหมดแล้ว และก็มาถ่ายทำข้างนอกเท่าที่จะถ่ายได้ คือโชคดีที่เรามีสต็อกไว้บ้าง เพราะว่าเราก็คาดการณ์เอาไว้แล้ว"


“เรื่องการถ่ายทำรายการต่างๆ ของเราเราได้เตรียมตัวออกมาถ่ายข้างนอก ได้ขนฉากบางฉากหรือบางฉากที่ขนออกมาไม่ได้ก็ต้องพัฒนาให้เป็นฉากอะไรไปก่อน ก็ให้ผู้ชมเข้าใจด้วยนะว่ารายการของเราก็จะพัฒนาไป ปรับตามสถานการณ์และอาจจะมีเรื่องราวของน้ำใจน้ำท่วมต่างๆ เกิดขึ้นมา ร่วมใจกันตรงไหนได้ก็ทำกันไป ช่วยๆ กันทุกๆ ฝ่าย”

“เราเองเฝ้าระวังตลอดเพราะว่าเราไปเลือกทำเลตรงนี้เป็นทุ่งนา เดิมทีก็เป็นน้ำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรารู้แล้วว่ามันจะต้องเกิดเหตุนี้เราก็เลยดีไซน์ให้อยู่ชั้น 2 หมด แต่ว่าก็ยกพื้นสูงมาประมาณสัก 1 เมตร ชั้นล่างก็ต้องยอมไป ขณะนี้ก็นิดหน่อยยังไม่ได้เสียหายมาก พนักงานเองตอนนี้เราก็สั่งหยุดงานก็แล้วแต่ละคนว่าบ้านจะอยู่ที่ไหน บางคนก็ออกไปต่างจังหวัดเพราะว่าอยู่ก็โดนน้ำล้อมหมด น้ำล้อมก็จะไปไหนไม่ได้และเดี๋ยวก็จะโดนตัดไฟ เพื่อความปลอดภัย ก็ต้องรับสภาพอยู่กับความเป็นจริง คือความอยากได้กับความอยากให้เป็นไม่ตรงกันอยู่แล้ว ตอนนี้เราเลือกความปลอดภัยของพนักงานก่อน การดูแลคงต้องไว้ชดเชยในเรื่องของการหยุดงานอะไรก็ว่าไป”

“แต่ตอนนี้หนึ่งงานจะต้องมีออกอากาศเพื่อให้ท่านผู้ชมได้เห็นเรื่องความบันเทิงก็ต้องมีต่อไป เรื่องงานก็ต้องดำเนินต่อไป กำลังใจก็ต้องดำเนินต่อไป อย่างรายการราชรถมาเกยเราก็ต้องถ่ายทำ ทุกๆ รายการเท่าที่เราจะทำได้ เรื่องของสปอนเซอร์ก็ต้องโดนอยู่แล้ว แต่เราเชื่อว่าพลังกายพลังใจพวกนี้มันจะคืนกลับมาจะทบกลับมาหลายๆ เท่า และมันจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้มีกำลังใจกันต่อๆ ไป”

“ตอนนี้ทุกคนช่วยเหลือกันก่อนมากกว่ายิ้มและก็ให้กำลังใจกัน น่ายกย่องมากนักศึกษาประชาชนไปกรอกทราย กรอกข้าวสารอาหารแห้งต่างๆ ทหารข้าราชการไม่ได้หยุดเลยท่านนายก ท่านฝ่ายค้าน ผู้ว่ากทม. ทำงานกันอย่างเต็มที่ให้กำลังใจทุกคนและพวกเราด้วย"

“เร็วๆ นี้ก็วางแผนกันว่าอาจจะมีโอกาสออกไปช่วยเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ประสบภัยรอบๆ บ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นปทุมธานี นนท์บุรี ต่างๆ ก็คงไปเป็นกำลังใจโบกไม้โบกมือเราก็โดนนะช่วยกันนะ เดี๋ยวคงต้องเตรียมรถราเรื่องราวต่างๆ ด้วย ผมว่าตอนนี้เป็นเรื่องของกำลังใจแล้ว สุดท้ายก็ช่วยอะไรไม่ได้เป็นกิจจะลักษณะเท่าไหร่ แต่คงไม่จัดเป็นคาราวานเหมือนเก่าแล้ว มากน้อยก็แล้วแต่เท่าที่จะทำได้แล้วตอนนี้ เราคงจะยังทำอยู่แต่ว่าอยู่ในส่วนที่เล็กลงคงแค่ไปให้กำลังใจ เรื่องเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยไม่ใช่เรื่องหลัก เพราะอุบัติเหตุก็คืออุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้”

“อย่างครั้งที่แล้วที่เลี้ยวไปน้ำมันแรง พอมันหมดไหล่ทางแล้วและน้ำมาด้วย มันก็จะพัดไปเลย แต่ดีที่ยังปลอดภัยกลับมาได้ก็ไม่ได้อยากจะให้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นมันก็เป็นอุทาหรณ์ ตอนนี้ก็ต้องช่วยตัวเองก่อน ครั้งต่อไปถ้าไปก็ต้องเป็นรถ แต่ไม่ใช่คาราวาน ไม่ควรจะแห่แหน เอาไปเป็นจุดที่จะพอเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ช่วยได้ตามความจริง”

“ช่วยของนี้มันไม่ทั่วหรอก และเชื่อว่าทางการก็คงช่วยได้ไม่ทั่วไม่เต็มที่ ได้ของไม่ทั่วก็อย่าไปน้อยใจ เชื่อว่าทางการก็พยายามไปช่วย ทางทหารก็ให้กำลังใจ หน่วยทหาร ทัพบก ทัพเรือ ทหารอากาศ ตำรวจต่างๆ รัฐบาล ฝ่ายค้านต่างๆ ชาวบ้านต่างช่วยเหลือกันดี เวลานี้ต้องให้กำลังใจกัน และพวกเราก็ต้องมีรอยยิ้ม ไม่ใช่ว่าไปยิ้มเยาะเย้ย เป็นยิ้มที่ให้กำลังใจซึ้งกันและกัน ศิลปินดารานักข่าวทุกคนก็พร้อมใจกันให้กำลังใจทุกคน เวลาบอกข่าวว่ามีการช่วยเหลือกันก็จะพร้อมหน้าพร้อมตากันมาเลย"

“บ้านผมเองก็จ่อๆ อยู่เฉยๆ คาดเดาไม่ได้ ถ้ามันแตกมันก็จะไหลเลย เราพยายามปลอบคนอื่น แต่ว่าใจเราก็ห่วงบ้านอยู่ดี แต่ก็ไม่เครียดนะเราทำใจ รอตั้งรับสถานการณ์น้ำมาพอสมควรแล้วก็พยายามจะบอกคนอื่นว่าหนีไม่พ้น ทรัพย์สมบัติเหล่านี้เป็นของนอกกายของผมเองถือว่าน้อยกว่าคนที่โดนเยอะมากมาย ชาวบ้านที่อยู่ต่างจังหวัด อยุธยา นครสวรรค์หรืออะไรต่างๆ แม้กระทั้งบ้านเล็กเพราะนั่นคือชีวิตเขา เขามากกว่าเราเยอะ ของเราอาจจะเสียหายมากกว่าในด้านของวัตถุ แต่ว่าถ้าเทียบเป็นรายได้ของเรายังถือว่าน้อยกว่า บ้านเขาอาจจะเสียหายน้อยเมื่อเทียบกับเรา แต่มันคือชีวิตของเขานะ อันนี้ถือว่ามากกว่าเราก็ต้องให้กำลังเขา"
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์



ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก