วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555

“โบ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์” โต้ควง “เพชร” ถ่ายรูปแต่งงานที่ลาว

“โบ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์” โต้ควง “เพชร” ถ่ายรูปแต่งงานที่ลาว เผยให้ “อชิ” เรียกเพชรอา ถึงวันข้างหน้าแต่งงานกันก็ไม่ให้เปลี่ยนเรียกพ่อ
“โบ” โต้ควง “เพชร” ถ่ายรูปแต่งงานที่ลาว ยอมรับงงเพราะอย่าว่าแต่ไปด้วยกันเลย แม้แต่ไปเองตนก็ยังไม่เคยไปลาวเลยสักครั้ง แฮปปี้ความสัมพันธ์เพชรราบรื่นดี เผยฝ่ายชายไปรับ “น้องอชิ” ที่โรงเรียนกับตนบ้าง บอกแนะนำหนุ่มเพชรให้อชิรู้จักในฐานะเพื่อนของแม่ และให้เรียกอีกฝ่ายว่าอาเพราะอชิมีพ่อเพียงคนเดียวคือ “ฟลุค” ยินดีฟลุคคบ “นาตาลี” ชมฝ่ายหญิงเป็นคนดี

เหมือนว่าความรักครั้งนี้ของม่ายสาว “โบว์ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์” กับนักแสดงหนุ่ม “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” จะดูแฮปปี้ลงตัวสุดๆ อีกทั้งฝ่ายชายยังเข้ากับ “น้องอชิ อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช” ลูกชายสุดเลิฟได้เป็นอย่างดี เลยเป็นอีกหนึ่งคู่รักคู่หวานของวงการบันเทิงที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ล่าสุดอยู่ๆ ก็มีข่าวออกมาว่า ทั้งคู่ได้ย่องไปถ่ายรูปแต่งงานกันที่ประเทศลาว
ทำเอาหลายคนเซอร์ไพร์สนึกว่าจะวิวาห์ฟ้าแลบอีกคู่ ซึ่งกับเรื่องนี้โบขอยืนยันว่าไม่จริงเลยสักนิด…

“ไม่มีค่ะ ไม่เคยไปลาวด้วยกันเลยค่ะ อย่าว่าแต่ไปด้วยกันเลยโบยังไม่เคยไปลาวเลยสักครั้งเดียวนะ โบยืนยันได้ว่ายังไม่มีถ่ายอะไรอย่างนั้นด้วย การถ่ายเวดดิ้งไม่รู้ว่ามีข่าวมาจากที่ไหน (หัวเราะ) ก็มีแต่ถ่ายภาพเล่นๆ คู่กันปกติเฉยๆ มีถ่ายรูปคู่เวลาไปเที่ยวกันบ้าง เรื่องแต่งงานคงยังไม่มีตอนนี้ค่ะ รอไปก่อน”


“ความรักก็ดีค่ะ แฮปปี้ ตอนนี้ยังเรื่อยๆ ก็คบกันอยู่ และช่วงปลายปีที่แล้วก่อนปีใหม่ เราเพิ่งจะตกลงว่าคบกันค่ะ ช่วงนั้นก็มีไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง ไปทานข้าวด้วยกันก็เจอคน แต่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้มา เพราะตอนนั้นเราไม่ได้เป็นข่าว โบประทับใจเขาตรงที่เขาเป็นคนดี เป็นคนน่ารักค่ะ เป็นคนที่มีความคิด เป็นคนที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา อย่างน้อยเขาเคยเป็นเพื่อนเป็นพี่ที่ดีของเราดูแลเราอย่างดี แล้วก็รู้สึกว่าเขาดูเป็นผู้ใหญ่เป็นผู้นำ สามารถคุยกับเราได้หลายๆ เรื่อง ก็ทำให้เรารู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วยกัน”

“แต่ว่าสถานะตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลง เราคบกันในฐานะนึงที่เราดูแลซึ่งกันและกัน วันหนึ่งมันอาจจะดีขึ้นหรือลดลง อันนี้มันเป็นเรื่องของอนาคต อันนี้เราก็ต้องทำตัวเราให้ดีที่สุด เราก็ต้องดูแลซึ่งกันและกันให้มากที่สุดก่อน เราต้องดูแลลูกเรา หลายๆ อย่างไปด้วยกันได้ดี เขาก็มีโอกาสได้คุยกับอชิค่ะ เวลาไม่ทำงาน โบก็พาน้องมากินข้าว ก็จะมีเจอกันบ้าง แต่ช่วงนี้น้องก็จะไปโรงเรียน”

หลายคนมองว่า ความรักครั้งนี้ดูลงตัวหวานแหววมาก

“จริงๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรหวานมาก เพราะว่าตั้งแต่คบกันมา เปลี่ยนสถานะ ต่างคนก็ต่างทำงาน ส่วนโบเองก็เลี้ยงน้องอชิเป็นหลักอยู่แล้ว พี่เพชรเขาก็ถ่ายละครของเขาไป ที่จริงไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันเท่าไหร่ แต่พอมีเวลาอยู่ด้วยกันก็โอเค มีอะไรก็คุยกัน และที่น้องอชิเข้ากันได้ดีกับพี่เพชร ก็เป็นเพราะว่าเรารู้จักกันก่อน พี่เพชรเข้ามาในสถานเพื่อนอยู่แล้ว ก็เข้ามาเล่นกับน้องอชิ น้องเขาชอบอยู่แล้วเพราะว่าเป็นผู้ชาย”

“ก็มีเวลาไหนที่โบไปรับน้องที่โรงเรียน เวลาวันไหนบางทีพี่เพชรว่างตอนเย็นก็จะไปรับด้วย มีไปรับบ้าง (หัวเราะ) แต่พี่เพชรไม่เคยไปรับน้องอชิเพียงคนเดียว เพราะที่โรงเรียนน้อง ตรวจเข้มมากๆ มีแต่ผู้ปกครองจริงๆ เท่านั้นมีสิทธิ์รับได้ค่ะ”

พร้อมเผยถึงวันที่หนุ่ม “เพชร” อุ้ม “น้องอชิ” ลูกชายสุดที่รักขี่คอลงสนามในงานช่อง3 ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำความสนิทสนมมากยิ่งขึ้น

“ก็เป็นเรื่องธรรมดามั้ง เพราะพี่เพชรเหมือนเป็นเพื่อนเป็นผู้ชายด้วย แล้วน้องอชิก็ชอบเตะฟุตบอลมาก ก็ขอไปลงสนามด้วย คือเขาอยากจะมีโอกาสที่ได้ไปเจอศิลปินนักแสดงที่มีชื่อเสียง แล้วก็เตะฟุตบอลในวันนั้นพี่เพชรก็ต้องไปเตะน้องอชิอยากไปมาก เขาก็ขอไปเตะฟุตบอลด้วยนะ ขอไปอยู่ใกล้ๆ ในสนาม แล้วได้เจอกับเพื่อนเขาคือน้องอีตั้น (ลูกหมิว ลลิตา)ด้วย เขาก็เลยตามไป ที่จริงเขาก็ติดพี่เพชรนะ เพราะเป็นคนมีกิจกรรมผู้ชายๆ เล่นกีฬา เล่นอะไรแบบแมนๆ ขี่จักรยานด้วยกัน น้องอชิก็จะสนุกกว่าอยู่กับคุณแม่อยู่แล้วค่ะ คุณแม่ก็มีแต่จะดุจะว่า”

“เขาก็เข้ากันได้ จริงๆ อีกอย่างก็เพราะว่าพี่เพชรก็เป็นเหมือนเพื่อนเหมือนพี่คนนึง เป็นผู้ชายคนนึงที่เข้ามาในบ้านเรา แล้วได้มาเล่นกับน้องอชิ ที่จริงน้องอชิจะชอบเล่นกับเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว ชอบเล่นมากกว่าคุณแม่อยู่แล้ว เพราะว่าเล่นกับพี่เพชรเองเล่นกับฟลุคเองยังไงก็สนุกกว่าคุณแม่อยู่แล้ว คุณแม่ก็จะมีแต่เรื่องของการเรียน การนอนเร็ว กินข้าว แล้วก็สุขภาพ เด็กๆ ย่อมเบื่อคุณแม่เป็นธรรมดา ไปเจออะไรที่เป็นผู้ชายเขาก็จะมีความสนุกสนานอยู่แล้ว”

ส่วนที่อดีตสามี “ฟลุค เกริกพล” ออกมาสัมภาษณ์กับสื่อเชื่อว่า “โบ” จะไม่สอนให้ “น้องอชิ” เรียกหนุ่ม “เพชร” ว่าพ่อนั้น โบได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า…

“ก็โอเค เพราะว่าจริงๆ แล้วน้องอชิก็มีคุณพ่อคนเดียว ทุกคนมีคุณพ่อคุณแม่คนเดียวอยู่แล้ว ตัวโบเองก็รับรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร จริงๆ เราก็ต่างคนต่างรู้ถึงสถานะของตัวเองอยู่แล้ว พี่เพชรเข้ามาเราก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน อยู่ในครอบครัวเราก็มีความปรองดองต่อกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรในครอบครัว ก็สร้างความสบายใจให้กับน้องอยู่แล้ว เรามองที่น้องเป็นหลักอยู่แล้ว”

“ตั้งแต่ที่เราแยกจากกัน จนมาถึงวันนี้ก็ 4-5 ปีแล้ว วันนี้โบก็ถือว่าเราก็มีเพื่อนที่ดีคนหนึ่งเข้ามาที่อยู่ด้วยจะเป็นแบบอย่างที่ดีได้ แล้วอยู่ด้วยกันด้วยความปรองดอง ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ และโบก็แนะนำพี่เพชรกับน้องอชิในฐานะก็เป็นเพื่อนคุณแม่ แล้วให้น้องเรียกว่าอาเพชรค่ะ ต่อให้ถ้าแต่งงานกับพี่เพชรก็คงให้น้องเรียกอาเพชรเหมือนเดิม ทุกอย่างมันก็เป็นตามความเหมาะสมอยู่แล้ว”

เมื่อถามว่าทางฝั่งของ “ฟลุค” กับ “นาตาลี” ก็เปิดตัวในฐานะคนรักใหม่ ส่วน “โบ” ก็ออกมายอมรับว่าคบหากับหนุ่ม “เพชร” แล้ว “น้องอชิ” ถามอะไรหรือไม่? โบเผยว่า…

“ก็ไม่ได้ถามค่ะ คือพี่เพชรเขาเข้ามาในฐานะเป็นเพื่อนอยู่แล้วตั้งแต่แรก ตัวเราเองก็ไม่เคยให้ความสำคัญกับเขามากกว่าอยู่แล้ว ต่อหน้าลูกเอง การวางตัวที่พี่เพชรเขาแสดงออกกับน้อง น้องอชิก็มาอันดับหนึ่ง ส่วนโบเองให้น้องเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว ถึงเขาจะมาเล่นมาอะไร แต่ถึงเวลาที่เราอยู่กับลูกน้องก็เป็นที่หนึ่งอยู่แล้วเสมอค่ะ”

“น้องก็ไม่ได้รู้สึกขาดความรักหรืออะไรไป เราเองโบจะมีเวลาอันน้อยนิดที่เราจะได้มีเวลาเรื่องของความรักอยู่ด้วยกันบ้าง คืออย่างเวลาที่ลูกนอนแล้ว ไปโรงเรียน นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจไว้คืออยากให้น้องเขามีความสุขก่อน ส่วนเรื่องของเราเป็นเรื่องที่รองมาอยู่แล้ว เพราะว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว”

“คือพี่เพชรเองค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็ค่อนข้างวางตัวดีทีเดียว เขาค่อนข้างรู้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่แล้ว เขาก็ให้เกียรติคุณฟลุคอยู่แล้ว แล้วก็ให้เกียรติทางด้านน้องอชิอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเข้ามาก็เลยทำให้เราค่อนข้างสบายใจ ไม่มีปัญหาอะไรกัน สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ ก็ถือว่าในยุคนี้ครอบครัวที่แตกแยกเราต้องมีปัญหาต่อกัน ถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ว่าเราก็มองที่ลูกเป็นหลัก เราก็ทำให้น้องสบายใจมากที่สุดค่ะ คนที่เข้ามาเราถือว่าเราเป็นผู้ใหญ่เป็นผู้ปกครองแล้วเราต้องเป็นผู้นำของเขาได้ ปัญหาต่างๆ จะได้ไม่เกิดขึ้น”

“ไม่มีปัญหาเลย จริงๆ แล้ว มันไม่ได้มีประเด็นอะไรเลยที่เป็นปัญหา หรือเป็นเรื่องที่แปลกไป จริงๆ แล้วเราก็เหมือนกับหลายๆ ครอบครัวที่เราต่างคนต่างโอเค อาจจะมีชีวิตของตัวเอง มีการตัดสินใจของตัวเอง แล้วบังเอิญอดีตของแต่ละคนหรืออาจจะคนใหม่ที่รู้จักกัน ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป ต่างคนก็ต่างเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน อย่างที่บอกว่าเราเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราจะทำอะไรความสุขของเราก็เป็นส่วนเล็กน้อย”

“แต่ความสุขของน้องเองคือเด็ก แล้วก็ยังไม่มีวุฒิภาวะทางด้านความคิด เพราะฉะนั้นถ้าน้องเห็นว่าทุกคนมีความสุข น้องก็จะเติบโตอย่างมีความสุข วันนึงน้องอาจจะมีน้องอีกก็ได้ อาจจะมีครอบครัวที่ขยายใหญ่มากขึ้น เราเองเราอยู่ในวงการบันเทิง เราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราก็ควรจะก้าวไปพร้อมกัน ไม่อยากให้ใครทำลายซึ่งกันและกัน เพราะว่าจริงๆ แล้วเราก็เป็นครอบครัวเล็กๆ อยากจะสร้างความสุขมากกว่าความทุกข์ เพราะฉะนั้นก็อยากให้มองว่าไม่มีเรื่องอะไร ปกติธรรมดาครอบครัวทั่วๆ ไป”

พร้อมกันนี้ “โบ” ยังได้เอ่ยแสดงความยินดีกับ “ฟลุค” ที่ความรักกับ “นาตาลี” ไปได้สวยถึงขั้นออกปากถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคงแต่งงานกัน

“จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่เราก็ยินดีอยู่แล้ว ก็ดีใจกับเขาด้วย เพราะว่าระยะเวลาที่เรารู้จักกับน้อง(นาตาลี)เองและทางคุณฟลุค ค่อนข้างยาวนานแล้ว เราเองก็เคารพทางด้านครอบครัวของน้อง เรารู้จักมาตั้งนานแล้ว น้องเป็นคนค่อนข้างน่ารัก เราก็รู้สึกว่าคุณฟลุคโชคดีที่ได้อยู่กับคนที่ดีๆ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม เราก็แฮปปี้อยู่แล้ว เพราะว่าเราเองเราก็ต้องอยู่ตรงนั้นด้วย เรามีความสุขอยู่แล้วที่ได้เห็นเขามีความสุขต่อกัน”

หลายวันก่อนหนุ่ม “เพชร” ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากใช้ชีวิตคู่กับ “โบ” และอยากมีลูกสาวที่น่ารักด้วยกัน

“เวลาคบกันเราก็มีความจริงใจต่อกัน แต่ว่าทุกอย่างก็คงเป็นเรื่องของอนาคต เราก็คงจะคุยกันไปเรื่อยๆ ด้วยว่าเป็นยังไงบ้าง ดูกันไปไกลๆ กว่านี้ก่อน ส่วนว่าพี่เพชรบอกว่าอยากมีลูกสาว เพราะพี่เพชรเขาก็รักเด็กค่ะ แล้วก็อยากมีลูกสาวน่ารักดี (หัวเราะ)”

“เราก็ไม่ได้มองอะไรไปไกล ทำทุกวันให้ดีที่สุด ถ้าเราเลือกที่เราจะอยู่กับใคร เราคิดว่าเราได้อยู่ใกล้คนที่ดีๆ เข้ามาอยู่ในครอบครัว มาอยู่กับลูกเรา มาอยู่กับครอบครัวเรา มาอยู่กับพ่อแม่เรา เราก็ถือว่า ถ้าทุกอย่างมันดี ก็จะดำเนินต่อไป ตามอนาคตที่จะต้องเป็นไป การคาดหวังไปไกลมากๆ โบก็กลัวเหมือนกันว่าถ้าเป็นไปไม่ได้ ทุกคนก็จะเฮิร์ทก็จะมีปัญหา ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทุกคนแฮปปี้แค่นี้ไปเรื่อยๆ มันก็ดีที่สุดแล้ว ส่วนอนาคตจะออกมาเป็นรูปแบบอย่างไรก็ติดตามกันต่อไป”
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์





ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก